o.Oยินดีต้อนรับสู่ Blog เทคโนโลยีสาระสนเทศและการสื่อสารสำหรับครูO.o°

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

ส่วนประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์
                 หมายถึง ส่วนที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ แบ่้งออกเป็น 5 ส่วนคือ

         ส่วนที่ 1 หน่วยรับข้อมูลเข้า (Input Unit)
เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาเชื่อมต่อ ทำหน้าที่ป้อนสัญญาณเข้าสู่้ระบบ เพื่อกำหนดให้คอมพิมเตอร์ทำงานตามความต้องการ ได้แก่
        - แป้นอักขระั (Keyboard)
        - แผ่นซีดี (CD-Rom)
        - ไมโครโฟน (Microphone) เป็นต้น
        ส่วนที่ 2 หน่วยประมวลผลกลาง
         (Central Processing Unit)
         ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคำนวณทั้งทางตรรกะและคณิตศาสตร์ รวมถึงการประมวลข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ
         ส่วนที่ 3 หน่วยความจำ (Memory Unit)
         ทำหน้าที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งที่ส่งมาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งไป ประมวลผลยังหน่วยประมวลผลกลาง และเก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลแล้วเพื่อเตรียมส่งไปยังหน่วยแสดงผล
        ส่วนที่ 4 หน่วยแสดงผล (Output Unit)
        ทำหน้าที่แสดงข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผล หรือผ่านการคำนวณแล้ว
       ส่วนที่ 5 อุปกรณืต่อพ่วงอื่นๆ  (Peripheral Equipment)
       เป็นอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น เช่น โมเด็ม (modem) แผงวงจรเชื่อมต่อเครือข่าย เป็นต้น

       ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
       1. มีความเร็วในการทำงานสูง สามารถประมวลผลคำสั่งได้รวดเร็วเพียงชั่ววินาที จึงใช้ในงานคำนวณต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
       2. มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ใช้แทนกำลังคนได้มาก
       3. มีความถูกต้องแม่นยำ ตามโปรแกรมสั่งงานและข้อมูลที่ใช้
       4. เก็บข้อมูลได้มาก ไม่เปลืองเนื้อที่เก็บเอกสาร
       5. สามารถโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งผ่านระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน
         ระบบคอมพิวเตอร์
         หมายถึง กรรมวิธีที่คอมพิวเตอร์ทำการใดๆกับข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ตาม ความประสงค์ของผู้ใช้งานให้มากที่สุด เช่น ระบบเสียภาษี ระบบทะเบียนราษฎร์ ระบบทะเบียนการค้า ระบบเวชระเบียนโรงพยาบาล เป็นต้น
การเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้โดยการตรวจสอบจากการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์จากหน่้วยงานที่เกี่ยวข้อง
        องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
        ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วน ดังนี้
    1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หรือส่วนเครื่อง
    2. ซอฟแวร์ (Software) หรือส่วนชุดคำสั่ง
    3. ข้อมูล (Data)
    4. บุคลากร (Peopleware)

        อาร์ดแวร์ (Hardware)
        หมายถึง ตัวเครื่องและอุึปกรณ์ส่วนต่างๆที่เราสามารถสัมผัสและจับต้องได้ ฮาร์ดแวร์ประกอบด้วย   
      ส่วนที่สำคัญ 4 ส่วน ดังนี้คือ
     1. ส่วนประมวลผล (Processor)
     2. ส่วนความจำ (Memory)
     3. อุปกรณ์รับเข้าและส่งออก (Input - Output Devices)
     4. อุปกรณ์หน่วยเก็บข้อมูล (Storage Device)

                   ส่วนที่ 1 CPU
                   CPU เป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เปรียบเสมือนสมอง  มีหน้าที่หลักในการควบคุมการทำ
          งานของคอมพิวเตอร์ ประมาลผลและเปรียบเทียบข้อมูลโดยทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดิบและ
          แปลงให้เป็น สารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ความสามารถของ ซีพียู นั้น พิจารณา
          จากความเร็วของการทำงาน การรับส่งข้อมูล อ่านและเขียนข้อมูลในหน่วยความจำ ความเร็ว
          ของซีพียูขึ้นอยู่กับตัวให้จังหวะที่เรียกว่า สัญญาณนาฬิกาเป็นความเร็วของจำนวนรอบสัญญาณ
          ใน 1 วินาทีมีหน่วยเป็น เฮิร์ตซ์ (Hertz) เช่น สัญญาณความเร็ว 1 ล้านรอบใน 1 วินาที เทียบ  
          เท่าความเร็วสัญญาณนาฬืกา 1 จิกะเฮิร์ตซ์ (1GHz) 

                  ส่วนที่ 2 หน่วยความจำ (Memory)
              จำแนกออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
         1. หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
         2. หน่วยความจำสำรอง (Secondary Storage)

                1. หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
           เป็นหน่วยเก็บข้อมูลและคำสั่งต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
           ชุด ความจำข้อมูลที่สามารถบอกตำแหน่งที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่ง ข้อมูลจะถูกนำไปเก็บไว้
           และ   สามารถนำออกมาใช้ในการประมวลผลภายหลัง โดย CPU ทำหน้าที่ในการนำข้อมูล
           เข้าและนำออกจากหน่วยความจำ การทำงานของคอมพิวเตอร์ ต้องใช้พื้นที่ของหน่วยความจำ
          ในการทำงานประมวลผลและเก็บข้อมูล ขนาดของความจุของหน่วยความจำ คำนวณได้จากค่า
          จำนวนพื้นที่ที่สามารถใช้ในการเก็บข้อมูล จำนวนพื้นที่คือจำนวนข้อมูล และจนาดของโปรแกรม
          ที่สามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุด พื้นที่หน่วยความจำมีมากจะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วมาก
           ยิ่้งขึ้น

                   หน่วยประมวลผลกลาง (CPU)
              หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU มี ความหมายทางด้านฮาร์ดแวร์ 2 อย่าง คือ
        1. ชิป (chip) ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์
        2. ตัวกล่องเครื่องที่มี CPU บรรจุอยู่
        
                1.หน่วยความจำหลัก
                แบ่งได้ 2 ประเภทคือ หน่วยความจำแบบ "แรม" (RAM) และหน่วยความจำ
          แบบ"รอม" (ROM)
                1.1 หน่วยความจำแบบ "แรม  (RAM = Random Access Memory)
          เป็น หน่วยความจำที่ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าเพื่อรักษาข้อมูล ข้อมูลหรือแฟ้มข้อมูลจะถูก
          เก็บไว้ชั่วคราวขณะทำงาน ข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำจะอยู่ได้นานจนกว่าจะปิดเครื่อง 
          เราเรียกหน่วย ความจำประเภทนี้ว่า หน่วยความจำแบบลบเลือนได้ (Volatile Memory) 
                1.2 หน่วยความจำแบบ "รอม" (ROM = Read Only Memory) เป็นหน่วยความจำที่
          ใช้เก็บ โปรแกรมหรือข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่ถาวรไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่ป้อน
          ให้กับวงจร ยอมให้ซีพียูอ่านข้อมูลหรือโปรแกรมไปใช้งานอย่างเดียวไม่สามารถเขียนข้อมูล ลง
          ไปเก็บไว้ได้โดยง่ายส่วนใหญ่ใช้เก็บโปรแกรมควบคุม เราเรียกหน่วยความจำประเภทนี้ว่า หน่วย
          ความจำแบบไม่ลบเลือน (Nonvolatile Memory)

               หน่วยความจำสำรอง  (Secondary Memory Unit)
               หน่วยความจำสำรอง หรือหน่วยเก็บข้อมูลรอง เป็นหน่วยเก็บที่สามารถรักษาข้อมูลได้
          ตลอดไปหลังจากปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว
               หน่วยความจำรองมีหน้าที่หลัก คือ
           1. ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือสำรองข้อมูลเพื่อใช้ในอนาคต
           2. ใช้ในการเก็บข้อมูลโปรแกรมไว้อย่างถาวร
           3. ใช้เป็นสื่อในการส่งผ่านข้อมูลระหว่่างเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง

              ประโยชน์ของหน่วยความจำสำรอง
        หน่วยความจำรองจะช่วยแก้ไขปัญหาการสูญหาย ของข้อมูลอันเนื่องมาจากไฟฟ้าดับเพราะข้อมูล
        ต่างๆที่ส่งเข้ามาประมวลผล เมื่อเรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จะถูกนำไปเก็บในความจำหลัก      
        ประเภทแรม ปากปิดเครื่องหรือมีปัญหาทางไฟฟ้า อาจทำให้ข้อมูลสูญหายจึงจำเป็นต้องมีหน่วย
        ความจำรอง เพื่อนำข้อมูลจากหน่วยความจำแรมมาเก็บไว้ใช้งานในครั้งต่อไป หน่วยความจำ
        ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะพบในรูปของสื่อที่ใช้ในการบันทึุกข้อมูลภาย นอก เช่น ฮาร์ดดิสก์ แผ่น
        บันทึก ชิปดิสก์ ซีดีรอม ดีวีดี เทปแม่เหล็ก หน่วยความจำแบบแฟลช หน่วยความจำรองนี้ ถึงจะ
        ไม่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ก็ยังสามารถทำงานได้ปกติ

              ส่วนแสดงผลข้อมูล
                ส่วนแสดงผลข้อมูล คือส่วนที่แสดงข้อมูลจากสัญญาณไฟฟ้าในหน่วยประมวลผลกลางให้
        เป็นรูป แบบที่คน เราสามารถเข้าใจได้ อุปกรณ์ที่แสดงผลข้อมูลได้แก่ จอภาพ (Monitor) เครื่อง
        พิมพ์   (Printer) เครื่องพิมพ์ภาพ (Ploter) และ ลำโพง (Speaker) เป็นต้น

             บุคลากรทางคอมพิวเตอร์  (PEOPLEWARE)
               บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ หมายถึง คนที่มีความรู้ความสามารถในการใช้หรือควบคถมให้การ
       ใช้คอมพิวเตอร์เป็นไป อย่างราบรื่นอาจจะประกอบด้วยคนเพียงคนเดียว หรือหลายคนช่วยกัน
       รับ   ผิดชอบโครงสร้างของหน่วยงานคอมพิวเตอร์

            ประเภทของบุคลากรทางคอมพิวเตอร  (PEOPLEWARE)
      1. ฝ่ายวิเคราะห์และออกแบบระบบงาน
      2. ฝ่ายเกี่ยวกับโปรแกรม
      3. ฝ่ายปฎิบัติงานเครื่องและบริการ

           บุคลากรในหน่วยงานคอมพิวเตอร์
     1. หัวหน้าหน่วยงานคอมพิวเตอร์ (EDP Manager)
     2. หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนระบบงาน (System Analyst หรือ SA)
     3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer)
     4. ผู้ควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer Operator)
     5. พนักงานจัดเตรียมข้อมูล (Data Entry Operator)
     - นักวิเคราะห์ระบบงาน
       ทำการศึกษาระบบงานเดิม ออกแบบระบบงานใหม่
     - โปรแกรมเมอร์
      นำระบบงานใหม่ที่นักวิเคราะห์ระบบออกแบบไว้มาสร้างเป็นโปรแกรม
     - วิศวกรระบบ
      ทำหน้าที่ออกแบบ สร้าง ซ่้อมบำรุง และดูแลรักษาฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานได้ตาม
      ต้องการ
     - พนักงานปฎิบัติการ
      ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ หรือภารกิจประจำวัน ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์

      อาจแบ่งประเภทของบุคลากรคอมพิวเตอร์เป็นระดับต่างๆ ได้ 4 ระดับ ดังนี้
           1. ผู้จัดการระบบ (System Manager)
      คือ ผู้วางนโยบายการใช้่ึคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน
           2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst)
      คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการ
      ใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน
           3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer)
      คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียน
      ตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้
          4. ผู้ใช้ (User)
      คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้
      โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น